พาย้อนไปดูกิจกรรม Air Max Day ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อปี 2014 

ผ่านมาแล้วกว่า 8 ปี มีอะไรเจ๋งๆ เกิดขึ้นมาแล้วบ้างง

Air Max Day ถูกจัดขึ้นเพื่อโอกาสพิเศษอย่างเช่น การเปิดตัวรองเท้ารุ่นพิเศษ หรือ กิจกรรมที่ทำให้เหล่าสนีกเกอร์ได้มาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับ Air Max คู่โปรด โดยถูกจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2014 ทำไมต้องเป็นวันที่ 26 มีนาคม? เพราะถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 1987 ในวันเดียวกันนั้น Nike เปิดตัว Air Max 1 ออกมาให้เหล่าสนีกเกอร์ทั่วโลกได้รู้จัก จนนำไปสู่การออก Air Max รุ่นต่างๆ มาอีกหลากหลาย เรียกได้ว่าเป็นรุ่นบุกเบิกก็ว่าได้ วันนี้ Seek Thailand ขอพาไปย้อนดูกิจกรรมและ รุ่นพิเศษที่ Nike ออกมาให้เราเห็นตลอด 8 ปีที่ผ่านมากันครับ

 

ปี 2014

27 years later...

Nike เปิดตัว Air Max 1 Limited Edition สี OG ที่เพิ่มความพิเศษด้วยตัวเลข 3.26 บริเวณลิ้น เป็นตัวแทนวันวางขายวันแรกและ พิเศษด้วย Mid-Sole สีเขียวนีออนสะท้อนแสง โดยตัว Air Max 1 นับเป็นผลงาน Masterpiece ทั้งดีไซน์และ คุณภาพการผลิตจากชายที่เรารู้จักกันดี  "Tinker Hatfield" หลังจากวางขายทั้งโลกเรียกมันว่า"การปฏิวัติ" ทั้งเทคโนโลยี เพราะเป็นสนีกเกอร์คู่แรกที่มี visible airbag อยู่ในรองเท้าและ ดีไซน์จากได้แรงบันดาลใจจาก ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมปงปิดู (pompidou centre) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผ่านมาแล้วกว่า 35 ปี ยังคงตราตรึงใจเหล่าสนีกเกอร์เฮดตลอดมา

 

ปี 2015

The One Before the 1

เป็นอีกปีที่ Nike เลือกเปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง Air Max Zero โดยเลือกเล่าผ่านการวิวัฒนาการจากของ Visible Air ตั้งแต่ปี 1987 จนถึง ปี 2015 โดยใน video presentation ของไนกี้เลือกเล่าโดยการหยิบเอา Air Max ในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านมาจากโต๊ะนักออกแบบอย่าง "Tinker Hatfield" ซึ่งสูญสลายเหมือนฟองอากาศตามยุคสมัยนั้นๆ โดยถูกแทนที่ด้วยกล่อง Nike ขนาดยักษ์ ณ เมืองสำคัญกว่า 26 หัวเมืองทั่วโลก เลข 26 ก็ไม่ได้บังเอิญแต่จงใจเลือกให้ตรงกับวัน Air Max Day นั่นเอง Air Max Zero นั่นจริงๆแล้วถูกคิดค้นออกมานานมากแล้วแต่ยังคงเป็นเพียงภาพร่าง ก่อนจะถูกปัดฝุ่นด้วยมือของ กรีม แม็คมิลแลน นักออกแบบของทางไนกี้ โจทย์หินของทางกรีมคือ ยังต้องคงความดั้งเดิมในแบบฉบับของแอร์แม็กซ์ ซีโร่ แต่ยังต้องเติมองค์ประกอบที่เป็นนวัตกรรมเข้าไป ด้วยการสร้างสรรค์รองเท้าในแบบที่ไม่อาจเกิดขึ้นจริงได้เมื่อปี 1987 

.

โดยแม็คมิลแลนเติมความก้าวล้ำด้วยการบรรจุนวัตกรรมล่าสุด(ในปี 2015) ของไนกี้เข้าไป โดยประกอบไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ พื้นรองเท้าชั้นนอก แอร์แม็กซ์ 1 อัลตร้า (Air Max 1 Ultra) ที่เพิ่งเปิดตัวในรองเท้ารุ่น แอร์แม็กซ์ 1 อัลตร้ามัวร์ (Air Max 1 Ultra Moire) ซึ่งมีโครงสร้างไฟลอน (Phylon), หน้ารองเท้าแบบเชื่อมติดกัน (Fused Upper) ที่ช่วยลดความหนาโดยที่ไม่สูญเสียคุณสมบัติในการประคองเท้า และ วัสดุตาข่ายซึ่งเป็นด้ายเส้นใยยาวชนิดเส้นเดี่ยว (Monofilament Yarn) ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างหัวรองเท้าพิเศษโดยที่ไม่สูญเสียคุณสมบัติในการระบายอากาศไป ทั้งหมดนี้ทำให้แนวคิดแรกเริ่มของแฮทฟิลด์เป็นจริงขึ้น แนวคิดที่เกิดขึ้นก่อนการมาถึงของ แอร์แม็กซ์ 1

 

ปี 2016

HTM

กิจกรรม Air Max Day จัดต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 3 ครบรอบ 29 ปี พร้อมเปิดตัวคอลเลคชั่น HTM แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางไนกี้จึงเปิดตัว 3 ใหม่ให้สอดคล้องกับปีที่ 3 ของ Air Max Day จากดีไซเนอร์ชื่อดัง 3 ท่าน อย่าง 1. ฮิโรชิ ฟูจิวาระ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Fragment Design 2.Tinker Hatfield ปรมาจารย์ด้านการออกแบบของไนกี้และเป็นผู้สร้างสรรค์รองเท้าไนกี้ แอร์แม็กซ์ เป็นคนแรก และ 3. Mark Parker ดีไซน์เนอร์และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไนกี้ ทั้ง 3 รุ่นเป็นรองเท้า 1.Air Max LD Zero H 2.Air Max 90 Ultra Superfly T และสุดท้าย Air Max Ultra M โดยยังเลือกคอนเซปต์ 26 ประเทศทั่วโลกที่มีการจัดงาน และประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับเกียรติจัดงานนี้่ครับ

.

สามารถรับชมภาพบรรยากาศในงานได้ที่ Credit By.https://www.dooddot.com/recap-air-max-day-2016-bangkok/ 

 

ปี 2017

The 30th anniversary 

ในวาระครบรอบ 30 ปีของ Air Max Day เลือกนำเสนอรองเท้า Air Max รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำรองเท้าแอร์แม็กซ์รุ่นเรโทร ซึ่งมาปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น นอกจากนี้ยังเผยโฉมไลน์อัพรองเท้าแอร์แม็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมทั้งรองเท้ารุ่นแอร์เวเปอร์แม็กซ์ที่แฟนๆ รอคอยมายาวนาน โดยรองเท้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการเปิดตัวอย่างต่อเนื่องยังเป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่านวัตกรรมแอร์ได้ล้ำหน้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว

.

โดยในรายชื่อมีรุ่นทำการโปรโมทดังนี้ 

1.Nike Air Max 90 Ultra Flyknit - แตกต่างจากตัว OG หลักๆ 2 อย่าง คือ 1. หน้ารองเท้าที่ผลิตจากเส้นใย ฟลายนิต (Flyknit) ที่มีน้ำหนักเบาและให้ความยืดหยุ่นสูง 2.การออกแบบส่วนกลางพื้นรองเท้าเป็นรอยบากทรงโค้งที่มีความลึกเพื่อลดน้ำหนักรองเท้าและเสริมความรู้สึกสบายขณะสวมใส่

2.Women’s Nike Air Max Jewell - พัฒนาขึ้นสำหรับสุภาพสตรีโดยเฉพาะ โดยรองเท้ารุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรองเท้า Nike Air Max Plus

3.Nike Air Max 1 Anniversary - ยังคงรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ชวนหลงใหลเหมือนดั่งรุ่นต้นแบบและยังมีสีสันให้เลือกตามแบบสีดั้งเดิมทั้ง 3 สี คือ สีขาว สีแดง-เทา-ขาว และสีฟ้าสลับเทา

4.Nike Air Max 1 Master - ผสมผสานความลงตัวระหว่างวัสดุคุณภาพสูงและรูปลักษณ์ที่ชวนหลงใหลของรองเท้าต้นตระกูลแอร์แม็กซ์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้สีแดงโทนดั้งเดิมที่ส่วนปลายเท้า, ลาย “ซาฟารี”

5.Nike Air Max 1 Ultra 2.0 LE - ปรับปรุงขึ้นจากรองเท้ารุ่นแอร์แม็กซ์ 1 อัลตร้า 2.0 โครงสร้างรองเท้าที่มีรอยบากลึกและเป็นทรงโค้งช่วยให้รองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าตระกูลแอร์แม็กซ์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในปัจจุบัน

6.Nike Air Max 1 atmos Elephant - ผสมผสานงานออกแบบที่หมดจดของไนกี้กับสีสันสไตล์คัลเลอร์บล็อก เพื่อช่วยเสริมความโดดเด่นให้แก่ตราสัญลักษณ์ไนกี้สีเขียวมรกตบนตัวรองเท้า รองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าที่ไนกี้ร่วมสร้างสรรค์กับร้านแอทมอส ร้านรองเท้าชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น และรองเท้ารุ่นนี้เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่งในคอลเลคชั่น “ซูแพ็ก – Zoo Pack” ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2006

7.Nike Air Max LD-Zero - รองเท้าจาก Air Max Day ปี 2016 รองเท้าไนกี้แอร์แม็กซ์ แอลดี-ซีโร่ผสานการออกแบบหน้ารองเท้าที่ดูเรียบง่ายของรองเท้าไนกี้รุ่นแอลดี 1000 ที่ไนกี้ผลิตในช่วงทศวรรษ 1970 และนวัตกรรมของรองเท้า 360 แอร์แม็กซ์ที่วางจำหน่ายในปี 2006 เข้าด้วยกัน

8.รุ่นใหม่ Nike Air VaporMax นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งโดย Zoom Air ที่ผสานเข้ากับหน้ารองเท้าแบบฟลายนิตที่มียืดหยุ่นสูงเป็นเสมือนชั้นบนสุดของโครงสร้างหน้ารองเท้าที่ออกแบบมาให้เป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมแอร์ อีกทั้ง รองเท้าไนกี้แอร์เวเปอร์แม็กซ์เป็นรองเท้าที่สร้างมิติใหม่ให้กับนวัตกรรมแอร์ และช่วยเสริมภาพลักษณ์และนิยามของรองเท้าไนกี้ตระกูลแอร์ให้ล้ำสมัยอีกครั้ง.

 

ปี 2018 

Air Max 1/97

Nike Air Max 270

Nike Air VaporMax Flyknit 2.0 

Nike Air VaporMax Plus

Nike Air VaporMax 97

.

นับเป็นที่ 31 จากรองเท้า Air Max 1 รุ่นแรก โดยปีนี้ Nike เลือกพรีเซนต์  Air Max 270 โดยหยิบเอา 2 โมเดลแรงบันดาลใจของ Air Max 270 กลับมาอีกครั้ง นั่นก็คือ Nike Air Max 180 และ Nike Air Max 93 แบบ OG สำหรับ Air Max 180 มาในสีออริจินัล ย่าง Ultramarine ในขณะที่ Air Max 93 ก็กลับมาในสี Dusty Cactus ที่เป็นสีเปิดตัวด้วยเช่นกัน.

.

ไฮไลท์ของปีนี้ Air Max 270 นับเป็นสนีกเกอร์เพื่อ Lifestyle Use โดยเฉพาะ เพื่อให้มีความนุ่มสบายในการใช้งาน สืบทอดเจตนารมณ์แห่ง Air Max ผ่านแรงบันดาลใจจากรองเท้าในตระกูล Air Max 2 รุ่นแห่งยุค 90s กับ Air Max 93 จากปี 1993 และ Air Max 180 จากปี 1991 ผสมผสานกับ Air Cushion แบบล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อ Lifestyle Use เป็นครั้งแรก พร้อม Air Cushion ที่มีความสูงมากที่สุดถึง 33 มม. เทียบเท่ากับรองเท้ากีฬาโดยเฉพาะ ทั้งหมด 7 คู่สี แต่ที่เป็นไฮไลท์คงหนีไม่พ้นคู่สีจากรองเท้าแรงบันดาลใจอย่าง Ultramarine (Air Max 180) และ Dusty Cactus (Air Max 93)

.

นอกจากนี้ยังมีอีกคู่ที่ทำตลาดแตก จากผู้ชนะแคมเปญ Vote Forward เมื่อ Air Max Day ปี 2017 อย่าง Sean Weatherspoon x Nike Air Max 1/97 โมเดลสุดพิเศษจากการออกแบบของ Sean Wotherspoon เจ้าของร้าน Round 2 นักสะสมรองเท้า และเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ โดยได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากหมวกcorduroy ในยุควินเทจ ตัวรองเท้าจะมาพร้อมกับวัสดุผ้า corduroy สีสันจัดจ้าน พร้อมกับรูปทรงที่เป็นการผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ของ 2 โมเดลอย่าง Upper ของ Air Max 97 และพื้น Sole ของ Air Max 1 แฝงความสนุกไว้ด้วยอิโมจิรูปยิ้ม ที่ในอนาคตจะมาสานต่อด้วยแคมเปญ Have a nike day

.

ส่วนอีก 3 คู่การเล่นแร่แปรธาตุด้วยนำเอาโมเดล Vapormax มาอัพเกรดโครงสร้างหน้าผ้าบ้าง, เลือกเอาพื้นจากรุ่นใหม่มาใส่ในโมเดลคลาสสิคอย่าง Air Max Plus และ Air Max 97 ซึ่งทั้งหมดนี้พบได้ในช่วงเดือนแห่ง Air Max Day ครับ

 

ปี 2019

Give Fresh Air

.

เป็นปีแรก ที่เหล่าสนีกเกอร์เฮด อาจจะผิดหวังกันเมื่อ Nike เปลี่ยนโปรเจกต์เปิดตัวรองเท้า Air Max ใหม่ เป็นโปรเจกต์เพื่อสังคมของแบรนด์แทน โดยเรียกแคมเปญนี้กันว่า "Give Fresh Air" ถูกคิดขึ้นมาเพื่อส่งเสริมและพัฒนาชุมชนให้ดียิ่งขึ้น พร้อมจับมือดารา, เซเลปต์, นักกีฬา และร้านค้าปลีกในพื้นที่นั้นๆ มาสร้างและช่วยเหลือบ้านเกิดของตัวเอง ในส่วนของประเทศไทยของเราเลือกจัดภายใต้ Concept : The Bangkok Department ที่เปรียบเสมือนห้องทดลองที่คุณอาจคาดไม่ถึง ยิ่งถ้าคุณเป็นสายทดลอง ประดิษฐ์ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในรูปแบบของตัวเองแล้ว มีสิ่งที่แปลกใหม่เกิดขึ้น คือ การส่ง ต่อไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ ในแต่ละ Workshop ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่การ Workshop ออกแบบรองเท้า โดยผ่านวิธีการออกแบบจากทีม Nike โดยตรง หรือการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อผลิตลวดลายในสไตล์ของตัวเองลงบนตัวรองเท้า หรือแม้แต่การย้อมถุงเท้าให้ออกมาเป็นคู่เดียวบนโลก เป็นต้น สิ่งนี้น่าจะเป็นไอเดียหลักที่ทางแบรนด์ Nike อยากจะส่งต่อให้กับทุกคน.

 

ปี 2020

30th Anniversary of Air Max 90

.

กลับมาเปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่อีกครั้งหลังเมื่อปีก่อนเปลี่ยนโปรเจกต์ไป ด้วยครั้งนี้ปูทางไปสู่อนาคตพร้อมฉลองครบรอบ 30 ปีของ Air Max 90 หรืออีกชื่อ Air Max 3 จากปี 1990 ผ่าน Nike Air Max 2090 (ชื่อมาจาก Air Max 90 กับ 2020 มารวมกัน) เพิ่มAir Cushion ที่ใหญ่กว่าเดิมถึง 2 เท่าจาก Air Max 90 Swoosh แบบใหม่ที่ตัดบางส่วนไป และ Heel Logo ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากรุ่นเดิม รวมถึงการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Nike ที่ช่วยให้สวมใส่ได้ง่ายขึ้นกับ FlyEase ซึ่งช่วยให้สามารถใส่รองเท้าได้ง่ายสุด ๆ จากการสวมเท้าใส่เท่านั้น แต่ก็ยังคงความเป็น Iconic รุ่นดั้งเดิมไว้ในหลาย ๆ ส่วนทั้ง Mudguard ที่เป็นเอกลักษณ์จากตัวดั้งเดิม Heel Cassette ซึ่งจะขึ้นเป็นชั้นเหมือนรุ่นแรก และ Heel Logo ที่ยังคงไว้อยู่ถึงแม้ว่าจะหน้าต่างไปก็ตาม เป็นรองเท้าแบบใหม่ที่ล้ำเกินใคร โดยทั้งนี้ทาง SEEK Thailand เคยทำบทความเกี่ยวกับ Air Max Day 2020 ชื่อ "Iterations of Air Max (20)90" สามารถไปอ่านต่อได้ที่ https://bit.ly/3IhMi4P

.

นอกจากรุ่น 2090 ยังมี Air Max 90 พิมพ์ลายพราง Duck Camo จาก แอร์แม็กซ์ 90 แอทโมส ปี 2013 กลับมาอีกครั้งและ Air Max 90 Metallic สีทอง (Gold), โรสโกลด์ (Rose gold)และ สีเงิน (Silver) ซึ่งปกติวางขายเฉพาะใน Nike By you เท่านั้น

 

ปี 2021

Evolution of Icons

.

3.26 Air Max Day 2021 ครบรอบ 34 ปีของ Air Max 1 พร้อมจิตวิญญาณที่จะก้าวไปข้างหน้าผ่าน 3 รุ่นใหม่อย่าง Air Max 2090 EOI, Air Max Viva และVaporMax Evo นอกจากนี้ยังมี Nike Air Max 1 "EOI" และ Air Max 90 SE "EOI", Air Max 95 "EOI", Air Max 97 "EOI" และ Air Max Plus SE EOI ไล่เรียงกันออกมา

.

ไฮไลท์ของปี 2021 คงหนีไม่พ้น Air Max 2090 EOI (ย่อมาจาก Evolution of Icons) ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบจากลูกเล่นที่อยู่ในรองเท้าระดับตำนานของตระกูลแอร์แมกซ์ ทั้งรุ่นแอร์ แมกซ์ 90 (Air Max 90) รุ่นแอร์ แมกซ์ 180 (Air Max 180) และรุ่นแอร์แมกซ์ บี ดับเบิลยู (Air Max BW) การผสมผสานหลากหลายองค์ประกอบเข้าด้วยกันในรองเท้าแอร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของรองเท้าคอลเลคชั่น EOI ประจำฤดูใบไม้ผลิปี 2021  

ปี 2022

35th Anniversary of Air Max 1 (One)

.

ครบรอบปีที่ 35 ของ Air Max 1 ตำนานรุ่นบุกบิกของ Air Max ปีนี้ Air Max Day หวนคืนสู่ Air Max 1 อีกครั้งกับรุ่นพิเศษ “Wabi Sabi” และ อีก 2 สีสุดพิเศษ "Blueprint" และ Nike Air Max 1 "La Ville-Lumière" โดยแต่ละรุ่นนับเป็นตัวแทนจากแต่ละทวีปมาใส่ใน Air Max 1 เริ่มจากตัวแทนฝั่งเอเชียร์สี Wabi Sabi นำปรัชญาของ ญี่ปุ่นมาถ่ายทอดผ่านรองเท้า  ตัวแทนฝั่งยุโรปสี La Ville Lumiére (ภาษาฝรั่งเศส) แปลเป็นอังกฤษคือ Paris เมืองแห่งแสงนั่นเองครับ และสุดท้ายตัวแทนจากอเมริกาเหนือ Blue Print โดยทั้ง 3 คู่มีจุดเด่นที่แตกต่างกันเช่น ป้ายส้นของ Air Max 1 Wabisabi เป็นรูป smile ส่วนของ Blue Print เป็นรูปโลก = ความเป็นสากล (Gobal) นั่นเอง ไม่แพ้กันสำหรับ La Ville-Lumière เป็นการเล่นเฉดสีสะท้อนเมืองแห่งแสงสีครับ ซึ่งเข้าไทยเพียงแค่สี “Wabi Sabi” ซึ่งสามารถซื้อได้ที่ Carnival, Atmos Bangkok และ 24 Kilates ครับ ในส่วนของ SEEK Thailand ขอร่วมฉลองด้วยส่นลด Air Max รุ่นต่างๆแบบจัดเต็มสูงสุด 60% ไปเลยครับบ 

Have a Air Max Day ครับทุกๆ ท่าน :)))

Related Posts